บันทึกอนุทิน
วิชาการจัดประสบการณ์วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย
Science Experiences Management for Early Childhood
อาจารย์ผู้สอน อ.จินตนา สุขสำราญ
ประจำวันอังคารที่ 15 กันยายน 2558
เรียนครั้งที่ 5 เวลา 13.30 -17.30 น.
กลุ่ม 102 ห้อง 223
Knowledge (ความรู้ที่ได้รับ)
การทำงานของสมอง สมองคืออวัยวะสำคัญของมนุษย์เป็นส่วนกลางของระบบประสาททำหน้าที่ควบคุมและ
สั่งการเคลื่อนไหว แสดงพฤติกรรม การรับรู้ อารมณ์ ความรู้สึกและรักษาสมดุลในร่างกาย
ซึ่งประกอบด้วยเซลล์ 2 ชนิด
คือนิวรอนและเกลีย มีหน้าที่ดูแลปกป้องเซลล์ประสาทที่ทำหน้าที่ส่งข้อมูลในรูปแบบของสัญญาณ
ไฟฟ้า การทำงานของสมองมนุษย์แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ
สมองส่วนหน้าทำหน้าที่เก็บข้อมูล ควบคุมการทำงานของร่างกาย กล้ามเนื้อ
การรับสัมผัส ความจำ เชาวน์ปัญญา และการได้ยิน สมองส่วนกลาง
ถูกสั่งการออกมาจากสมองส่วนหน้า ควบคุมการเคลื่อนไหวและการทำงานของประสาทตา
และสมองส่วนท้าย ควบคุมการทำงานการเคลื่อนไหวของร่างกาย การทรงตัว
และควบคุมการหายใจ
การหมุนเวียนของเลือด
สมองเเบ่งออกเป็น 2 ซีก คือ
1. สมองซีกซ้าย
2. สมองซีกขวา
หลักการ / แนวคิดสู่การปฏิบัติการพัฒนาเด็ก
1. กีเซล (Gesell)
หลักการ
- - พัฒนาการของเด็กเป็นไปอย่างมีแบบแผนและเป็นขั้นตอนเด็กควรพัฒนาไปตามธรรมชาติไม่ควรเร่งหรือบังคับ
- - การเรียนรู้ของเด็กเกิดขึ้นจากการเคลื่อนไหวการใช้ภาษาการปรับตัวเข้ากับสังคมและบุคคลรอบข้าง
แนวคิดสู่การปฏิบัติพัฒนาการเด็ก
- - โครงสร้างของหลักสูตรยุทธนาการเด็กคุณลักษณะที่พึงประสงค์และประสบการณ์
สำคัญไม่ควรเร่งสอนสิ่งที่ยากเกินพัฒนาการตามวัยของเด็ก
- - จัดกิจกรรมให้เด็กมีโอกาสเคลื่อนไหวกิจกรรมเดี่ยวและกิจกรรมกลุ่มจัดกิจกรรมให้เด็กได้ฟังได้พูด
ท่องคำคล้องจองร้องเพลงฟังนิ
2. ฟรอยด์ (Freud)
หลักการ
- - ประสบการณ์ในวัยเด็กส่งผลต่อบุคลิกภาพของคนเราเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่หากเด็กไม่ได้รับการกล่าวตอบสนองอย่างเพียงพอจะเกิด
อาการ ชะงักพฤติกรรมถดถอยคับข้องใจส่งผลต่อพัฒนาการของเด็ก
แนวคิดสู่การปฏิบัติการพัฒนาเด็ก
- - ครูเป็นแบบอย่างที่ดีทางการแสดงออก ท่าทาง
วาจา
- - การจัดกิจกรรมเป็นขั้นตอนจากง่ายไปยากจัดสิ่งแวดล้อมที่บ้านและโรงเรียนเพื่อส่งเสริมพัฒนาการ
3. อิริคสัน
หลักการ
- ถ้าเด็กอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เด็กพอใจและประสบผลสำเร็จเด็กจะมองโลกในแง่ดีมีความเชื่อมั่นและไว้วางใจผู้อื่น
- ถ้าเด็กอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ดีไม่พอใจจะมองโลกในแง่ร้ายขาดความมั่นใจในตนเองและไม่วางใจผู้อื่น
แนวคิดสู่การปฏิบัติการพัฒนาเด็ก
- จัดกิจกรรมให้เด็กมีโอกาสประสบผลสำเร็จโดยจัดกิจกรรมที่เหมาะกับวัยไม่ยากและมีให้เลือกตามความสามารถและความสนใจ
- จัดบรรยากาศในห้องเรียนให้เด็กมีโอกาสสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อสภาพแวดล้อมครูและเพื่อนๆเช่นบรรยากาศที่มีอบอุ่นมีความสบายใจและให้เด็กทำกิจกรรมร่วมกัน
4. เพียเจต์ (Piaget)
หลักการ
- พัฒนาการทางเชาว์ปัญญาของเด็กเกิดจากการที่เด็กมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมรอบตัวเด็กมีการรับรู้จากสิ่งแวดล้อมใหม่ๆที่เกิดขึ้นตลอดเวลาและมีการปรับขยายประสบการณ์เดิมความคิดและความหมายมากขึ้น
- พัฒนาการของเด็กปฐมวัย 0-6 ปี
1.ขั้นประสาทสัมผัสและการเคลื่อนไหว 0 ถึง 2 ปี เด็กเรียนรู้ทุอย่างทางประสาทสัมผัสทุกด้าน
2. ขั้นความคิดก่อนปฏิบัติการวัย 2 ถึง 6 ปี เริ่มเรียนภาษาพูดและภาษาท่าทางในการสื่อสาร ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง คิดหาเหตุผลไม่ได้ จัดหมวดหมู่ได้ตามเกณฑ์ของตน
แนวคิดสู่การปฏิบัติพัฒนาการเด็ก
- จัดกิจกรรมให้เด็กได้ใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 กิจกรรมสำรวจทดลองกิจกรรมประกอบอาหาร ทัศนศึกษา
- จัดให้เด็กฝึกฝนทักษะสังเกตจำแนกเปรียบเทียบเช่นการเล่นเกมการศึกษาการเรียนรู้จากสื่อของจริงการสำรวจทดลอง
- จัดให้เด็กได้เรียนรู้จากสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวไปสู่เรื่องไกลตัวรู้จักหน่วยตามความสนใจและเรียนรู้จัก สิ่งที่เป็นรูปธรรมก่อน
5. ดิวอี้ ( Dewey )
หลักการ
- เด็กเรียนรู้ด้วยการกระทำ
- การพัฒนาสติปัญญาของเด็กจะต้องฝึกให้เด็กคิดแบบวิทยาศาสตร์และมีระบบ แนวคิดสู่การปฏิบัติพัฒนาการเด็ก
- กิจกรรมให้เด็กได้ประสบผลสำเร็จพึ่งพอใจต่อสภาพแวดล้อมของห้องเรียน เพื่อน ครู
- จัดบรรยากาศในห้องเรียน ให้เด็กมีโอกาสสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อสภาพแวดล้อม ครู และเพื่อนๆ
6. สกินเนอร์ ( Skinner)
หลักการ
- ถ้าเด็กได้รับคำชมเชยและประสบความสำเร็จในการทำกิจกรรมเด็กจะสนใจที่จะทำต่อไป
- เด็กแต่ละคนมีความแตกต่างไม่มีใครเหมือนใคร แนวคิดสู่การปฏิบัติพัฒนาการเด็ก
- ให้เสริมแรงเช่น ชมเชย ชื่นชม เมื่อเด็กทำกิจกรรมประสบผลสำเร็จ - ไม่นำเด็กมาเปรียบเทียบแข่งขันกัน
7. เปสตาลอสซี่ ( Pestalozzi )
หลักการ
- ความรักเป็นพื้นฐานสำคัญและจำเป็นต่อการพัฒนาเด็ก ทั้งด้านร่างกายและสติปัญญา
- เด็กแต่ละคนแตกต่างกัน ทั้งด้านความสนใจ ความต้องการ และระดับความสามารถในการเรียน
- เด็กไม่ควรถูกบังคับให้เรียนรู้ด้วยการท่องจำ
แนวคิดสู่การปฏิบัติพัฒนาการเด็ก
- จัดกิจกรรมเตรียมความพร้อม ให้ความรัก ให้เวลา และให้เด็กเรียนรู้จากประสบการณ์
8. เฟรอเบล ( Froeble )
หลักการ
- ควรส่งเสริมพัฒนาการตามธรรมชาติของเด็กด้วยการกระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์อย่างเสรี
แนวคิดสู่การปฏิบัติการพัฒนาเด็ก
- จัดกิจกรรมเรียนรู้ผ่านการเล่นอย่างเสรี
9. เอลคายน์ ( Elkind )
หลักการ
- การเร่งให้เด็กเรียนรู้แต่เล็กเป็นอันตรายต่อเด็ก
- เด็กควรโอกาสเล่นและเลือกกิจกรรมการเล่นด้วยตนเองอย่างเสรี แนวคิดสู่การปฏิบัติการเด็ก
- จัดกิจกรรมในห้องเรียนให้เด็กมีโอกาสเล่นและเลือกกิจกรรมการเล่นด้วยตนเอง
ความหมายของวิทยาศาสตร์
แนวคิดพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์
- การพัฒนาการเรียนรู้สำหรับเด็กปฐมวัย
- การเรียนรู้จากการคิดและการปฏิบัติ
- การเรียนรู้แบบองค์รวมที่ครอบคลุมพัฒนาการทุกด้าน
- การเรียนรู้จากการคิดและการปฏิบัติ
- การเรียนรู้แบบองค์รวมที่ครอบคลุมพัฒนาการทุกด้าน
การเรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริง
The skills (ทักษะที่ได้)
3. อิริคสัน
หลักการ
- ถ้าเด็กอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เด็กพอใจและประสบผลสำเร็จเด็กจะมองโลกในแง่ดีมีความเชื่อมั่นและไว้วางใจผู้อื่น
- ถ้าเด็กอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ดีไม่พอใจจะมองโลกในแง่ร้ายขาดความมั่นใจในตนเองและไม่วางใจผู้อื่น
แนวคิดสู่การปฏิบัติการพัฒนาเด็ก
- จัดกิจกรรมให้เด็กมีโอกาสประสบผลสำเร็จโดยจัดกิจกรรมที่เหมาะกับวัยไม่ยากและมีให้เลือกตามความสามารถและความสนใจ
- จัดบรรยากาศในห้องเรียนให้เด็กมีโอกาสสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อสภาพแวดล้อมครูและเพื่อนๆเช่นบรรยากาศที่มีอบอุ่นมีความสบายใจและให้เด็กทำกิจกรรมร่วมกัน
4. เพียเจต์ (Piaget)
หลักการ
- พัฒนาการทางเชาว์ปัญญาของเด็กเกิดจากการที่เด็กมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมรอบตัวเด็กมีการรับรู้จากสิ่งแวดล้อมใหม่ๆที่เกิดขึ้นตลอดเวลาและมีการปรับขยายประสบการณ์เดิมความคิดและความหมายมากขึ้น
- พัฒนาการของเด็กปฐมวัย 0-6 ปี
1.ขั้นประสาทสัมผัสและการเคลื่อนไหว 0 ถึง 2 ปี เด็กเรียนรู้ทุอย่างทางประสาทสัมผัสทุกด้าน
2. ขั้นความคิดก่อนปฏิบัติการวัย 2 ถึง 6 ปี เริ่มเรียนภาษาพูดและภาษาท่าทางในการสื่อสาร ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง คิดหาเหตุผลไม่ได้ จัดหมวดหมู่ได้ตามเกณฑ์ของตน
แนวคิดสู่การปฏิบัติพัฒนาการเด็ก
- จัดกิจกรรมให้เด็กได้ใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 กิจกรรมสำรวจทดลองกิจกรรมประกอบอาหาร ทัศนศึกษา
- จัดให้เด็กฝึกฝนทักษะสังเกตจำแนกเปรียบเทียบเช่นการเล่นเกมการศึกษาการเรียนรู้จากสื่อของจริงการสำรวจทดลอง
- จัดให้เด็กได้เรียนรู้จากสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวไปสู่เรื่องไกลตัวรู้จักหน่วยตามความสนใจและเรียนรู้จัก สิ่งที่เป็นรูปธรรมก่อน
5. ดิวอี้ ( Dewey )
หลักการ
- เด็กเรียนรู้ด้วยการกระทำ
- การพัฒนาสติปัญญาของเด็กจะต้องฝึกให้เด็กคิดแบบวิทยาศาสตร์และมีระบบ แนวคิดสู่การปฏิบัติพัฒนาการเด็ก
- กิจกรรมให้เด็กได้ประสบผลสำเร็จพึ่งพอใจต่อสภาพแวดล้อมของห้องเรียน เพื่อน ครู
- จัดบรรยากาศในห้องเรียน ให้เด็กมีโอกาสสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อสภาพแวดล้อม ครู และเพื่อนๆ
6. สกินเนอร์ ( Skinner)
หลักการ
- ถ้าเด็กได้รับคำชมเชยและประสบความสำเร็จในการทำกิจกรรมเด็กจะสนใจที่จะทำต่อไป
- เด็กแต่ละคนมีความแตกต่างไม่มีใครเหมือนใคร แนวคิดสู่การปฏิบัติพัฒนาการเด็ก
- ให้เสริมแรงเช่น ชมเชย ชื่นชม เมื่อเด็กทำกิจกรรมประสบผลสำเร็จ - ไม่นำเด็กมาเปรียบเทียบแข่งขันกัน
7. เปสตาลอสซี่ ( Pestalozzi )
หลักการ
- ความรักเป็นพื้นฐานสำคัญและจำเป็นต่อการพัฒนาเด็ก ทั้งด้านร่างกายและสติปัญญา
- เด็กแต่ละคนแตกต่างกัน ทั้งด้านความสนใจ ความต้องการ และระดับความสามารถในการเรียน
- เด็กไม่ควรถูกบังคับให้เรียนรู้ด้วยการท่องจำ
แนวคิดสู่การปฏิบัติพัฒนาการเด็ก
- จัดกิจกรรมเตรียมความพร้อม ให้ความรัก ให้เวลา และให้เด็กเรียนรู้จากประสบการณ์
8. เฟรอเบล ( Froeble )
หลักการ
- ควรส่งเสริมพัฒนาการตามธรรมชาติของเด็กด้วยการกระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์อย่างเสรี
แนวคิดสู่การปฏิบัติการพัฒนาเด็ก
- จัดกิจกรรมเรียนรู้ผ่านการเล่นอย่างเสรี
9. เอลคายน์ ( Elkind )
หลักการ
- การเร่งให้เด็กเรียนรู้แต่เล็กเป็นอันตรายต่อเด็ก
- เด็กควรโอกาสเล่นและเลือกกิจกรรมการเล่นด้วยตนเองอย่างเสรี แนวคิดสู่การปฏิบัติการเด็ก
- จัดกิจกรรมในห้องเรียนให้เด็กมีโอกาสเล่นและเลือกกิจกรรมการเล่นด้วยตนเอง
ความหมายของวิทยาศาสตร์
หมายถึง การศึกษาสืบค้นหรือจัดระบบความจริงเกี่ยวกับธรรมชาติโดยอาศัยกระบวนการแสวงหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่ประกอบด้วย วิธีการทักษะ
กระบวนการ และเจตคติทางวิทยาศาสตร์อย่างมีระบบแบบแผนมีขอบเขตครอบเขตโดยอาศัยการสังเกตการทดลองเพื่อค้นหาความเป็นจริงและทำให้ได้
ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป
แนวคิดพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์
- การพัฒนาการเรียนรู้สำหรับเด็กปฐมวัย
- การเรียนรู้จากการคิดและการปฏิบัติ
- การเรียนรู้แบบองค์รวมที่ครอบคลุมพัฒนาการทุกด้าน
- การเรียนรู้จากการคิดและการปฏิบัติ
- การเรียนรู้แบบองค์รวมที่ครอบคลุมพัฒนาการทุกด้าน
การเรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริง
1.การเปลี่ยนแปลง
2.ความแตกต่าง
3.การปรับตัว
4.พึ่งพาอาศัยกัน
5.ความสมดุล
การศึกษาวิทยาการวิทยาศาสตร์
1.ขั้นกำหนดปัญหา
2.ขั้นตั้งสมมติฐาน
3.ขั้นรวบรวมข้อมูล
4.ขั้นสรุปข้อมูล
เจตคติทางวิทยาศาสตร์
1.ความอยากรู้อยากเห็น
2.ความเพียรพยายาม
3.ความมีเหตุผล
4.ความซื่อสัตย์
5.ความมีระเบียบและรอบคอบ
6.ความใจกว้าง
การเรียนรู้อย่างมีความสุข
- - การเรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริง
- - เรียนรู้โดยผ่านประสาทสัมผัสทั้ง
5
- - พัฒนาทักษะการสังเกต
การเปรียบเทียบ การจำแนก
- - กิจกรรมโครงการ
กิจกรรมประจำวัน การเล่น กิจกรรมการทดสอบ
การเรียนรู้แบบองค์รวม
- - กิจกรรมที่จัดสอดคล้องกับประสบการณ์ที่ได้รับ
- - ครูผู้สอน
เด็กควรหลอมรวมหรือเชื่อมโยงความรู้และประสบการณ์ให้ครอบคลุมพัฒนาการทุกด้าน
- - ประสบการณ์ต่าง
ๆ สัมพันธ์กันในลักษณะบูรณาการ
กิจกรรมนำเสนอบทความ
เลขที่ 1 เรื่อง วิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับเด็กปฐมวัย
กิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ส่งเสริมพัฒนาการทางด้านสติปัญญา เช่นการสังเกต การจำแนก
การเปรียบเทียบ คลิกอ่านบทความที่นี้
เลขที่ 2 เรื่อง สอนลูกเรื่องปรากฎการธรรมชาติ
การเรียนรู้ทางปรากฎการณ์ธรรมชาติ ส่งเสริมพัฒนาการด้านต่าง ๆ การค้นพบ การอธิบาย
ปฏิบัติ จำแนก เปรียบเทียบ คลิกอ่านบทความได้ที่นี้
เลขที่ 3 เรื่อง แนวทางการสอนคิดเติมโจทย์ให้กับเด็กอนุบาล คลิกอ่านบทความได้ที่นี้
Teach Techniques (เทคนิคการสอน)
-สอนโดยการเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ให้ลงมือปฏิบัติ
- สอนโดยใช้คำถามกระตุ้นผู้เรียน
- สอนวิธีการนำเสนองานที่ถูกวิธี
- สอนโดยใช้คำถามกระตุ้นผู้เรียน
- สอนวิธีการนำเสนองานที่ถูกวิธี
Application (การประยุกต์ใช้)
- สามารถนำความที่เกี่ยวกับทฤษฎีไปใช้ในด้านการจัดประสบการณ์
และการเรียนการสอน ให้กับเด็กได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมกับพัฒนาการ
The skills (ทักษะที่ได้)
- ทักษะการฟัง
- ทักษะการตอบคำถาม
- ทักษะการสร้างสรรค์
- ทักษะการนำเสนองาน
- ทักษะการตอบคำถาม
- ทักษะการสร้างสรรค์
- ทักษะการนำเสนองาน
Teaching Evaluation (ประเมินการสอน)
Self : มาเรียนตรงเวลา มีความเข้าใจในเนื้อหาวิชาที่เรียน
Friends : มาเรียนตรงเวลา ให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมและช่วยเหลือกันในการตอบคำถาม
Teaching : มาสอนตรงเวลา แต่งกายเรียบร้อย เวลาพูดเสียงดีงชัดเจน เวลาสอนก็สอนได้เข้าใจง่าย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น