วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2558



สรุปบทความ

                                          STEM Education ที่โรงเรียนอนุบาลกุ๊กไก่

                 STEM Education หรือ เสต็มศึกษานัน โรงเรียนอนุบาลกุ๊กไก่ได้มีจัดการเรียนการสอนแบบนี้มายาวนานมากแล้ว เพียงแต่ไม่ได้กำหนดแยกออกมาละเอียดชัดเจนเช่นนี้ ถ้าดูแผนการสอนของครูที่กำหนดหน่วยการเรียนรู้ต่างๆ จะเห็นได้ว่าหลักสูตรของอนุบาลกุ๊กไก่จัดการเรียนการสอนครอบคลุมลุ่มลึกตามบริบทของ STEM อยู่แล้ว นักการศึกษาและนักวิจัยด้าน STEM Education ทุกท่านเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า วิธีการสอนที่ดีที่สุดของการจัดการศึกษาแบบนี้คือ การเรียนรู้แบบโครงการ ซึ่งโรงเรียนอนุบาลกุ๊กไก่เป็นหนึ่งในโรงเรียนต้นแบบของการเรียนการสอนแบบ Project Approach ในประเทศไทยในปัจจุบัน

              การพัฒนาสมองด้วยเสต็มในระดับอนุบาลหรือปฐมวัย
                 STEM สอนอะไร
                      วิทยาศาสตร์ คือวิธีการคิด การสังเกต การทดลอง การทำนายล่วงหน้า การแบ่งปันข้อมูลและสิ่งที่ค้นพบ ถามคำถาม และสงสัยว่าสิ่งต่างๆทำงานอย่างไร เป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติและสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติรอบตัวเรา
                       เทคโนโลยี คือ วิธีของการกระทำ การใช้เครื่องมือ ริเริ่ม บ่งชี้ปัญหา รู้ปัญหา และทำให้สิ่งต่างๆทำงานได้
                       วิศวกรรมศาสตร์ เป็น วิธีการกระทำ คือ การแก้ปัญหา โดยใช้สื่อวัสดุต่างๆหลากหลาย ออกแบบและสร้างสรรค์สิ่งต่างๆที่ใช้การได้เพื่อแก้ปัญหา ทำให้ดีขึ้น
                       คณิตศาสตร์ เป็นวิธีการคิด คือ การจัดเรียงลำดับ (1,2,3,4...) patterning (เกี่ยวกับการทา pattern เช่น 1, 2, 1, 2, 1, 2... ) เป็นการสำรวจรูปร่างรูปทรงต่างๆ ( สามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม วงกลม ปิรามิด ลูกบาศก์ ทรงกลม ฯลฯ) ปริมาณและปริมาตร (ใส่ได้มากขึ้นหรือน้อยลง) และขนาด (ใหญ่กว่า น้อยกว่า) เป็นต้น

                ตัวอย่างหลักสูตร
                      
                         สำหรับโรงเรียนอนุบาลกุ๊กไก่ โรงเรียนได้พิจารณาจัดการเรียนรู้เสต็มศึกษา หรือ STEM Education ให้เด็กอย่างเป็นรูปธรรมตามขอบเขตต่อไปนี้:
                            วิทยาศาสตร์
                                  ช่วยให้เด็กๆได้รู้จักใช้ทักษะทางวิทยาศาสตร์ เช่นสังเกตว่าเกิดอะไรขึ้น ใช้คาบรรยายสิ่งที่สังเกตสัมผัสได้ ทำซ้ำเพื่อเปรียบเทียบผลการสังเกต สำรวจ ทดลอง ซักถามและสงสัยแล้วคาดคะเนคาตอบ บันทึก เป็นต้น การเรียนการสอนจะต้องเริ่มจากสิ่งที่ใกล้ตัวเด็กที่สุด สามารถสำรวจสัมผัสได้ และเด็กๆได้ใช้ทักษะเหล่านี้ทุกวันในชีวิตประจาวัน การเรียนรู้พื้นฐานและทักษะทางวิทยาศาสตร์สาหรับนักเรียนอนุบาลกุ๊กไก่ มีดังนี้

                                1. ธรณีวิทยาและวิทยาศาสตร์ อวกาศ
                                    เป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับคุณสมบัติของโลก มหาสมุทร บรรยากาศ และจักรวาล    อะไรเรียกอะไร   ทำอะไร    มีลักษณะอย่างไร
                                   ในเรื่องนี้ เด็กอนุบาลจะเรียนรู้ในเรื่องแสงอาทิตย์ เงา และกลางวันกลางคืน เช่นสังเกตเงาของต้นไม้ตอนเช้าและบ่ายว่าแตกต่างกันไหม เงาของตัวเอง สังเกตเรื่องกลางวันกลางคืน คาดคะเนว่าอะไรทาให้เกิดเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เรียนเรื่องประโยชน์ของแสงอาทิตย์ เรียน เรื่องน้ำ อากาศ แสง สี เสียง ของธรรมชาติ ปรากฏการณ์ตามธรรมชาติต่างๆ เรียนเรื่องดิน หิน ทราย วัสดุธรรมชาติ การเปลี่ยนแปลงของโลกและปรากฏการณ์ตามธรรมชาติที่เด็กมีประสบการณ์ตรงด้วยหรือมีอยู่รอบตัวเด็ก รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของน้า อากาศ และปรากฏการณ์ตามธรรมชาติ เป็นต้น เด็กๆจะได้ทากิจกรรม สังเกต เปรียบเทียบ และคาดคะเน หาข้อมูล ทดลอง และบันทึก

                                2. วิทยาศาสตร์กายภาพ
                                       เป็นการสำรวจสืบค้นในเรื่องพลังงานธรรมชาติและองค์ประกอบพื้นฐานของธรรมชาติ
                                      ในเรื่องนี้ เด็กอนุบาลจะเรียนรู้เรื่อง การทดลองเกี่ยวกับสิ่งต่างๆรอบตัว เพื่อจะได้รู้ว่าสิ่งเหล่านั้นทรงตัวอย่างไร ทำให้วางอยู่อย่างสมดุลย์ได้อย่างไร เคลื่อนที่ได้อย่างไร เรียนรู้
เรื่องพลังงานธรรมชาติต่างๆ รวมถึงพลังการผลักและการดึง

                                3. ชีววิทยาศาสตร์
                                        เป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิต ว่าคืออะไร อยู่รอดได้อย่างไร มีวงจรชีวิตอย่างไร เปลี่ยนแปลงอย่างไร     เด็กต้องได้ทำกิจกรรมที่สามารถใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้าได้ และมีประสบการณ์ตรงในการสังเกต สำรวจ จัดพวก เปรียบเทียบ สรุปความเหมือนความต่างของสิ่งมีชีวิต ซึ่งศาสตร์ที่อยู่ในกลุ่มชีววิทยาศาสตร์ประกอบด้วย ชีววิทยา สรีรวิทยา และนิเวศวิทยา
                                        ในเรื่องนี้ เด็กอนุบาลจะได้สืบค้น อธิบาย และเปรียบเทียบคุณสมบัติของสิ่งมีชีวิตและสิ่งไม่มีชีวิต เรียนรู้เรื่องการเป็นอยู่ของตัวเอง การรักษาสุขภาพ ตลอดจนสังเกตเปรียบเทียบ ความต้องการของคน สัตว์ พืช การเจริญเติบโต การเปลี่ยนแปลงตามเวลาและตามฤดูกาลต่างๆ เป็นต้น เด็กเรียนรู้จากการมีประสบการณ์ตรง สังเกต สืบค้น สำรวจ เปรียบเทียบ คาดคะเน ทดลอง และ บันทึก



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น